ผบ.ตร.ลงพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 เปิดอาคาร สภ.หนองแสง ใหม่ พร้อมอำลาราชการ ตรวจเยี่ยม ให้โอวาท มอบหลวงพ่อโสธรรุ่น “ตร.108 ปี” ชมเชยการทำงานตามนโยบาย ตร. โครงการนาคาพิทักษ์ ต้นแบบแก้ปัญหาผู้ป่วยจิตเวช เน้นย้ำทำงานเชิงรุก ทัศนคติเชิงบวก แก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม คดีออนไลน์ พร้อมบรรยายสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ให้ สภาหอการค้าไทย
วานนี้ (15 ก.ย. 66) เวลาประมาณ 09.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางไปเป็นประธานเปิดอาคารที่ทำการสถานีตำรวจภูธรหนองแสง จว.อุดรธานี โดยมี พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.อ.จักรทิพย์ กูลพฤกษี ผกก.สภ.หนองแสง พร้อมแขกผู้เกียรติเข้าร่วม
ผบ.ตร. ขึ้นแท่นรับความเคารพและตรวจแถวกองเกียรติยศ มอบสิ่งของบำรุงขวัญ แก่ตำรวจ สภ.หนองแสง และหน่วยตำรวจในพื้นที่ มอบใบประกาศเกียรติคุณผู้สนับสนุนกิจการงานตำรวจ และทำพิธีเปิดอาคาร กดปุ่มเปิดผ้าแพรคลุมป้ายชื่ออาคารที่ทำการ สภ.หนองแสง ตรวจเยี่ยมภายในอาคาร
สำหรับ สภ.หนองแสง แห่งใหม่ ตร.ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างทดแทนอาคารเก่าซึ่งสร้างมาแล้วกว่า 42 ปี รองรับภารกิจดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 4 ตำบล 38 หมู่บ้าน ประชากร 27,176 คน มีตำรวจทั้งสิ้น 60 นาย ทั้งนี้ สถานีตำรวจแห่งใหม่จะรองรับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจยุคใหม่ ทั้งการอำนวยความยุติธรรม ให้บริการประชาชน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม มีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันทุกมิติ
ต่อมาเวลา ประมาณ 11.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และคณะ เดินทางมาตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย เพื่ออำลาหน่วย และให้โอวาทตำรวจ โดยมี พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 , รอง ผบช. , ผบก.ในสังกัด ภ.4 เข้าร่วม ส่วนระดับสถานีตำรวจมีการถ่ายทอดการประชุมทางระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์
ผบ.ตร. ได้กล่าวขอบคุณและชมเชยการปฏิบัติงานของตำรวจ ภ.4 ในห้วงที่ผ่านมา ที่ได้ปฏิบัติตามนโยบาย ร่วมกันดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ โครงการนาคาพิทักษ์ ที่ค้นหาและแก้ไขปัญหาผู้ป่วยจิตเวช ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเป็นต้นแบบแนวทางแก่พื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ มีผลการประเมินตามโครงการประเมินผลความพึงพอใจของประชาชนที่ดี โดย ภ.4 ได้ลำดับคะแนนเป็นต้นๆในภาพรวมของประเทศ งานจราจร ภ.4 มีการปฏิบัติที่ดีทั้งในเรื่องการอำนวยความสะดวกการจราจรในเทศกาล การป้องกันและลดอุบัติเหตุในพื้นที่ ซึ่ง ภ.4 ได้อันดับสองของประเทศ ขอให้รักษามาตรฐานการทำงาน เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน
การป้องกันยาเสพติด ให้มุ่งแก้ไขปัญยาเสพติดทุกมิติ โดยเฉพาะการสร้างชุมชนยั่งยืน ทำชุมชนเข้มแข็ง เข้าไปในชุมชน ค้นหาผู้ป่วยผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อร่วมแก้ปัญหา มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสำคัญในงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ต้องแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาชนในพื้นที่ และ ภ.4 ได้มีการใช้อุปกรณ์ไม้ง่าม เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ ถือว่าดำเนินการได้ดี
ขอทุกคนให้ความสำคัญ กับการรับแจ้งความออนไลน์ มุ่งปราบปรามจับกุมบัญชีม้าซิมม้า เมื่อจับกุมให้มีการสืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการที่ทำผิด โดยหลังจากที่มีการออก พรก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มาเป็นเครื่องใช้เครื่องมือในการทำงานของเจ้าหน้าที่ คดีก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ขอให้ตำรวจคงความเข้มในการดำเนินการ ทั้งมิติการปราบปราม การป้องกัน สร้างครูไซเบอร์ แสวงหาความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาคดีออนไลน์ให้ลงลงต่อเนื่อง
ผบ.ตร.ยังฝากข้อคิดการทำงานให้ตำรวจ ว่า ต้องทำงานเชิงรุก มีทัศนคติที่ดีในการทำงาน มุ่งหมั่นพัฒนาตนเองให้เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก โดยศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ หมั่นทบทวนยุทธวิธี วางแผนการทำงาน ทบทวน ประเมินการปฏิบัติ แสวงหาความร่วมมือ สื่อสารทำความเข้าใจ กับพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ
สิ่งสำคัญที่สุดที่ตำรวจพึงมี คือ ทัศนคติเชิงบวกมุ่งมั่นปฏิบัติงานโดยมีประชาชนเป็นที่ตั้ง มีความเสียสละ สามัคคี อุทิศให้ส่วนรวม เมื่อเรามีทัศนคติที่ดีแล้ว จะเป็นแรงผลักในการทำงาน ไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่คิดว่างานในหน้าที่คือภาระ ไม่บ่น ไม่ย่อท้อ แต่จะเห็นว่าอาชีพตำรวจเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ช่วยเหลือประชาชน เปรียบเสมือนการทำบุญ ทำความดีในทุกวัน
หลังมอบนโยบาย ผบ.ตร.ได้มอบพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร.108 ปี” ที่ ตร.จัดสร้างขึ้น ให้ ภ.4 พร้อมมอบเหรียญอาร์ม พระพุทธโสธร ให้ข้าราชการตำรวจ ภ.4 ทุกนาย เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากที่มอบให้ตำรวจ ภ.5,6,7 และได้ส่งมอบให้ตำรวจทั่วประเทศไปส่วนหนึ่งแล้ว
จากนั้นเวลา 16.30 น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้เดินทางไปบรรยายพิเศษ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยสัญจร ประจำปี 2566 ครั้งที่ 5 จังหวัดนครพนม มี นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำภาคธุกิจ หอการค้าไทยทุกจังหวัด ผู้ประกอบการเข้าร่วมฟัง
ผบ.ตร.ได้กล่าวถึงความสำคัญของเสริมสร้างภูมิคุ้มกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ หลังที่ปราบปรามภัยออนไลน์มาต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถดำเนินการให้หมดไปได้ จึงจำเป็นที่ต้องอาศัยความร่วมมมือทุกภาคส่วน สร้างภูมิคุ้มกัน (วัคซีนไซเบอร์) ให้รู้เท่าทันภัยกลโกงรูปแบบต่างๆ มีการทำข้อสอบวัคซีนไซเบอร์ และ ประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่ง ตร.ได้ร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน ดำเนินการมาต่อเนื่อง ประกอบกับ การผลักดัน พรก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มาเป็นเครื่องใช้เครื่องมือในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทำให้คดีก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้ฝากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นอกจากสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง ให้ช่วยขยายความรู้วัคซีนไซเบอร์ไปสู่ประชาชนให้ทั่วถึงมากที่สุด เพื่อร่วมกันป้องกันภัยออนไลน์ที่จะเกิดขึ้นกับสังคมไทย