เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 3 ต.ค. พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุกราดยิงประชาชนในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอีกหลายราย ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความรู้สึกของประชาชน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการกวาดล้างจับอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนเถื่อน ปืนแปลง หรือแบลงค์กัน
ต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมคณะทำงานและได้มอบหมาย พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานสืบสวน ดำเนินการตามนโยบาย
ของนายกรัฐมนตรีดังกล่าว ตามมาตรการเชิงรุก โดยได้กำหนดให้ ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายและระดมกำลังทั่วประเทศร่วมกันกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงวันที่ 9 – 11 ต.ค. 66 โดยมีเป้าหมายหลัก เป็นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ อีกทั้ง ดำเนินมาตรการเชิงรุก เร่งปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภทที่มีการลักลอบซื้อขาย ดัดแปลงแก้ไข อาวุธปืนผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกกองบัญชาการได้ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง จนนำมาสู่การขออำนาจศาลออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นผู้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการจำหน่าย ดัดแปลง ซื้อขาย และเกี่ยวข้องกับอาวุธปืนอาวุธสงคราม กว่า 3,224 จุด จับกุมผู้กระทำผิดกว่า 1,593 คน และตรวจยึดอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายจำนวนมาก ตั้งเป้าลดความรุนแรงของอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมาย
โดยมีผลการระดมกวาดล้าง ห้วงวันที่ 9-11 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา มีดังนี้

  1. ตรวจค้นเป้าหมายทั่วประเทศทั้งสิ้น 3,224 จุด
  2. จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1,593 ราย
  3. ตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย
    3.1 อาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียน แบลงค์กัน และบีบีกัน จำนวน 1,789 กระบอก
    3.2 อาวุธปืน มีหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นของบุคคลอื่น (ปืนผิดมือ) จำนวน 219 กระบอก
    3.3 เครื่องกระสุนปืน จำนวน 75,973 นัด
    นอกจากนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ยังได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์
    ที่กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน อันเป็นช่องทางในการซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมาย มีผลการดำเนินการดังนี้
    ผลการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน
  4. Facebook จำนวน 79 บัญชี
  5. Tiktok จำนวน 14 บัญชี
  6. X (Twitter) จำนวน 148 บัญชี
  7. Youtube จำนวน 26 ช่อง
  8. Instagram จำนวน 14 บัญชี
    รวมจำนวนทั้งสิ้น 291 รายการ
    พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ มีนโยบายในการให้ความสำคัญในแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างจริงจังมาโดยตลอด จึงได้มีการบูรณาการกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนพร้อมกันทั่วประเทศอยู่เสมอ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก เชื่อมั่นว่าจะทำให้ความรุนแรงของอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมายลดลง
    อย่างแน่นอน อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งต่อพี่น้องประชาชน
    นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักลงทุนจากต่างประเทศ อันจะส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ
    การระดมกวาดล้างอาวุธปืนทั่วประเทศจนทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดอาวุธปืนจำนวนมากในครั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก และขอฝากประชาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชน ซึ่งหากมีเบาะแส/เรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรม หรือเรื่องอื่นๆ สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 191 หรือ สายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ