สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านการดูแลและส่งเสริมการซื้อขายสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัยผ่านแพลตฟอร์ม Shopee
สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการดูแลและส่งเสริมการซื้อขายสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัยผ่านเว็บไซต์ www.shopee.co.th และ แอปพลิเคชัน Shopee ผนึกกำลังเสริมสร้างแพลตฟอร์มตลาดสินค้าออนไลน์ เพื่อให้การจับจ่ายใช้สอยปลอดภัย ไร้สิ่งผิดกฎหมาย
วันอังคารที่ 27 ก.พ. 67 เวลา 11:00 น. ณ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามบันทึกความร่วมมือกับบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี คุณมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนลงนามฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) และ คุณการัน อำบานี ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามฯ
สำหรับพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือฯ ครั้งนี้ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มตลาดสินค้าออนไลน์ ซึ่งได้มีการซื้อขายโดยตรงผ่านทางเว็บไซต์ www.shopee.co.th และ
แอปพลิเคชัน Shopee และเพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานในการป้องกันและปราบปรามผลิตภัณฑ์
ผิดกฎหมายบนช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม อีกทั้งเพื่อให้ประชาชนสามารถทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มยอดนิยมได้อย่างปลอดภัยและได้รับผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน รวมถึงการลดการเข้าถึงธุรกรรมซื้อขายผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมาย ก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบังคับใช้กฎหมายภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พุทธศักราช 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอีกทั้งมุ่งเน้นการเสริมสร้างความตระหนักรับรู้และความเข้าใจในการป้องกันและลดเหตุอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในอนาคต
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีซึ่งมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ จนได้รับความเดือดร้อนและมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เร่งหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยให้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ไปยังพี่น้องประชาชน อย่าให้หลงเชื่อกลโกง กลอุบายของกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งมาในรูปแบบต่างๆผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์
จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนให้ติดตามข่าวสารการเตือนภัยออนไลน์จากหน่วยงานของทางภาครัฐอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ หากมีเบาะแสหรือต้องการขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อมายังสายด่วน 1599 และ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง