วานนี้ (21 เมษายน 2567) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และตรวจการปฏิบัติงานของตำรวจหน่วยต่างๆ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาก

โดยเวลา 10.00 น. ตรวจเยี่ยมตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต (ตม.จว.ภูเก็ต) มี พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต พร้อมข้าราชการตำรวจ ตม.จว.ภูเก็ต ให้การต้อนรับและนำเสนอการปฏิบัติหน้าที่ พบว่า ตม.จว.ภูเก็ต มีความพร้อมในด้านสถานที่และมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกและรวดเร็วให้กับคนต่างชาติที่มาใช้บริการ ในการนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้มอบแนวทางในปฏิบัติงานเน้นย้ำการให้บริการนักท่องเที่ยว หรือคนต่างชาติที่อยู่แบบ longstay เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ความประทับใจ และเกิดภาพลักษณ์ที่ดีในการดูแลและให้บริการ, ส่วนชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำผิด ไม่ว่าจะส่วนตัว หรือเป็นรูปแบบขบวนการ เปิดบริษัทนอมินี หรือกลุ่มผู้มีอิทธิพล จะต้องประสานกับตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนข้อมูลของคนต่างด้าวที่กระทำผิดอย่างเต็มที่ , กรณีที่ปรากฏข้อมูลว่าผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้ชาวต่างชาติเช่าไปขับขี่ โดยไม่มีการตรวจสอบใบอนุญาตใบขับขี่ และกระทำเพื่อเชิงธุรกิจ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องเป็นความผิดกฎหมาย รวมถึงประกันภัยที่จะไม่คุ้มครอง กรณีเช่นนี้ต้องมีความเข้มงวดเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบให้เป็นมาตรฐาน เพื่อไม่ให้เกิดวัฒนธรรมที่ไม่ถูกต้องจนเคยชิน ซึ่งในอนาคตจังหวัดภูเก็ตต้องเป็นต้นแบบให้กับเมืองท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ พัทยา กรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดอื่นต่อไป , ในการดูแลชาวต่างชาติที่ประสบเหตุหรืออุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตม.จะต้องประสานงาน ดูแล ให้เป็นไปตามแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่ทำให้ชาวต่างชาติถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้กระทำผิด หรือกลุ่มบุคคลที่ทำตัวมีอิทธิพล บิดเบือนรูปคดี จนเป็นส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย

จากนั้นเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ที่ ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 จว.ภูเก็ต บำรุงขวัญและมอบนโยบายข้อสั่งการแนวทางในการปฏิบัติ โดยมี พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) , พ.ต.อ.ยุทธภูมิ ปั้นลายนาค รอง ผบก.ทท.3 , พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท.3 , พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สวญ.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 และอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว ให้การต้อนรับ โดย รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ได้มอบแนวทางในการปฏิบัติงานเน้นย้ำการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยว พร้อมกับการสร้างรอยยิ้ม เพื่อปรากฏภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ดีของจังหวัดภูเก็ต , ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาท อำนาจหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยว การออกตรวจต้องมีการนำรูปแบบ Stop Walk and talk มาปรับใช้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เรียกศรัทธาจากประชาชนและกลุ่มนักท่องเที่ยว , จัดทำ Big Data ของพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงเพื่อเป็นฐานข้อมูล ประสานผู้นำท้องถิ่น จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายเตือน จุดเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุกับกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ โดยต้องบูรณาการการปฏิบัติและสนธิกำลังกับตำรวจพื้นที่ , กรณีมีข้อมูลชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำผิดกฎหมาย ต้องประสานกับตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง , บูรณาการกำลังกับตำรวจพื้นที่ในการหามาตรการตรวจสอบรถเช่าของชาวต่างชาติ ที่เช่ารถยนต์ไปขับขี่ โดยไม่มีใบอนุญาตใบขับขี่ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหา ให้เข้มงวดเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดระเบียบให้เป็นมาตรฐาน

ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจข้าราชการตำรวจ สภ.เชิงทะเล โดยมี พ.ต.อ.วีรพงศ์ รักขิโต ผกก.สภ.เชิงทะเล พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล อยู่ปฏิบัติหน้าที่และให้การต้อนรับ ได้สอบถามสถานภาพต่างๆ ของสถานีตำรวจ รับฟังปัญหาในการปฏิบัติงาน สถานภาพหนี้สินของข้าราชการตำรวจ ผลการปฏิบัติงาน และได้กำชับเน้นย้ำการขับเคลื่อนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามอาชญากรรมการกระทำผิดต่างๆ การดูแลบริการชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เป็นนักท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ ยกระดับการท่องเที่ยว อีกทั้งให้ปฏิบัติหน้าที่และดูแลพี่น้องประชาชนด้วยความเป็นตำรวจอาชีพ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจทั้ง 3 หน่วยงานใน จ.ภูเก็ต ได้ขอบคุณและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ตำรวจทุกนายตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต บริการอำนวยความสะดวก รักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงขององค์กรเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เพื่อสร้างศรัทธาและความเชื่อมั่นให้เกิดกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป