“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ” แถลงจับกุมยกแก๊งยิงดาบตำรวจพร้อมภรรยาท้อง 6 เดือน เสียชีวิตในป่า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตรวจสอบพบผู้ต้องหามีการลักลอบซื้อ-ขายเอทานอลผิดกฎหมาย สั่งเร่งขยายผลและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับเชื้อเพลิงทั่วประเทศ
วันนี้ (14 พฤษภาคม 2567) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) แถลงผลการจับกุมคดี 4 คนร้ายร่วมก่อเหตุยิง ด.ต.สกล บรรลุ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ อายุ 43 ปี และภรรยาชาวลาว อายุ 25 ปีที่กำลังตั้งครรภ์ 6 เดือน เสียชีวิตภายในป่า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เวลา 12.00 น. เศษ โดยมี พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี , พ.ต.อ.สุรพร เทพเสน ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลง ณ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี
สำหรับคดีนี้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว รวมจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายชัยวิชิต มือปืนยิง ด.ต.สกลฯ และภรรยา , น.ส.ธัญญา ภรรยาของนายชัยวิชิต , นายพิชิตพงศ์ ลูกชายของนายชัยวิชิต และนายธรรมรัตน์ ลูกจ้างของนายชัยวิชิต
โดยก่อนเกิดเหตุ ด.ต.สกลฯ พบกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นกลุ่มลักลอบจำหน่ายเอทานอลผิดกฎหมายรถสิบล้อบรรทุกเอทานอล และลักลอบซื้อ-ขายในรายทาง บริเวณป่ามันสำปะหลัง หมู่บ้านหนองหอย หมู่10 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเหตุซึ่งหน้า จึงเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มคนร้ายขัดขวาง จากนั้นนายชัยวิชิตฯ ได้ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.สกลฯ จำนวน 5-6 นัดจนเสียชีวิต ซึ่งภรรยาของ ด.ต.สกลฯ ได้ส่งพิกัดจีพีเอส และข้อความที่แจ้งขอความช่วยเหลือและถ่ายรูปรถบรรทุกเอทานอล ส่งให้ตำรวจอยู่ป้อมยามที่พักสายตรวจกรอกสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของ ด.ต.สกลฯ ต่อมา นายชัยวิชิตฯ ได้นำอาวุธปืนของ ด.ต.สกลฯ นำมายิงภรรยาของ ด.ต.สกลฯ จนเสียชีวิตภายในรถ ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะนำศพของ ด.ต.สกลฯ และภรรยา พร้อมรถของผู้เสียชีวิตไปจอดทิ้งไว้ในป่า ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จนมีการติดตามพบในเวลาต่อมา จากนั้นผู้ต้องหาได้ทำลายหลักฐาน อาทิ นำโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตไปทิ้ง นำปืนที่ก่อเหตุไปฝัง ก่อนหลบหนีไป จ.นครนายก จนถูกตามจับกุมได้ทั้งหมด จากนั้นชุดจับกุมได้ตรวจสอบที่รถและบ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหา พบของกลางจำนวน 18 รายการ อาทิ อาวุธปืนAK-43 (อาก้า) ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก , ปืนยาวอัดลม จำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืนยาวขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืนพกสั้น ขนาด.357 จำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก , เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวน 217 นัด , ระเบิดมือลูกเกลี้ยง M67 จำนวน 1 ลูก เป็นต้น
ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเอทานอลมาจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ได้สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) ซึ่งมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผอ.ศปนม.ตร. ขยายผลเพื่อนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกำชับ ตรวจสอบ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเชื้อเพลิงทั่วประเทศอย่างเข้มงวดต่อไป