จากกรณีเมื่อวันที่ 6 เม.ย.66 มีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้าไปในวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร และทำร้ายร่างกายไวยาวัจกร และกลุ่มคนงานได้รับบาดเจ็บ เหตุจากความขัดแย้งเกี่ยวกับการปลดอดีตเจ้าอาวาส จากกรณีใช้เงินวัดผิดวัตถุประสงค์ ซึ่ง สภ.โพทะเล ภ.จว.พิจิตร ได้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหารวม 21 คน แต่ต่อมาเมื่อกลุ่มเจ้าอาวาสใหม่จะเข้าไปบริหารภายในเขตวัด กลับเกิดความวุ่นวายระหว่างกลุ่มชาวบ้านฝั่งของอดีตเจ้าวาสเข้ายึดพื้นที่วัด ทำให้เป็นปัญหายืดเยื้อจนมาถึงปัจจุบัน ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้ว นั้น

วันนี้ (17 ส.ค.66) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายอินทพร จั่นเอี่ยม รักษาการ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นางเพ็ญรวี มาแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี นายมานะ สิมมา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีวัดหิรัญญาราม ณ ศาลากลางจังหวัดพิจิตร โดยเมื่อวันที่ 9 ส.ค.66 ที่ผ่านมา นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและแก้ไขปัญหาวัดบางคลาน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรเป็นประธานกรรมการ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติ เบื้องต้นในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายนั้น จะมีการยึดคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นหลัก โดยจะให้กรมบังคับคดีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเปิดทรัพย์และตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัดว่าอยู่ครบถ้วนตามรายการทรัพย์สินที่แสดงในชั้นศาลฎีกาหรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าวต้องให้เจ้าอาวาสรูปใหม่เข้าทำหน้าที่ หากมีการตรวจพบการทุจริตหรือการร้องเรียนอื่น ก็จะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ส่วนเรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสนั้น เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ ทางคณะทำงานจะไม่มีการแทรกแซงแต่อย่างใด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักพระพุทธศาสนา กรมบังคับคดี ฝ่ายปกครองจังหวัดพิจิตร และผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ในการหารือวิธการแก้ไขปัญหาของวัดบางคลาน ซึ่งเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลานาน โดยที่ประชุมมีมติให้มีการดำเนินการตามคำสั่งศาลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยจะให้กรมบังคับคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบทรัพย์สินของทางวัดให้ครบถ้วน เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลฎีกาเป็นหลัก โดยจะดำเนินการในวันที่ 22 ส.ค.66 เวลา 10.00 น. และจะดำเนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากตรวจสอบพบการทุจริตอื่นใด ก็จะต้องตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอยืนยันจะดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในบริเวณวัดบางคลานให้เร็วที่สุด